ชื่อเรื่อง   :  ปรางค์บ้านปรางค์
คณะผู้จัดทำ  : 1. นายธนากร  เพลินบุญ                   เลขที่ 9
                    2. นายพลวัฒน์  ปัตเทสัง                  เลขที่ 11
                    3. นางสาวจรรยารัตน์  ซึมรัมย์            เลขที่ 20
                    4. นางสาววิราวดี  ทองอาจ                เลขที่ 29
                    5. นางสาวหนึ่งฤทัย  อินทร์เลี้ยง         เลขที่ 33
                    นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ศิริพร  วีระชัยรัตนา
ข้อมูลของภูมิปัญญาท้องถิ่น 
 ประวัติและความสำคัญ
        ปรางค์บ้านปรางค์เป็นศาสนาสถานประจำโรงพยาบาลที่เรียกว่า อโรคยาศาล   ในคติศาสนาพุทธ ลัทธิมหายาน  สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 18        สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  แห่งอาณาจักรขอม ประกอบด้วย ปราสาทประธานทรงสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมก่อมุขยื่นด้านหน้าหรือด้านทิศตะวันออก มีวิหารตั้งอยู่ทางทิศ   ตะวันออกเฉียงใต้ของปราสาทประธาน มีโคปุระอยู่ทางทิศตะวันออก และมีกำแพงแก้ว ที่สร้างต่อเชื่อมจาก โคปุระ ล้อมรอบ  โบราณวัตถุที่สำคัญได้แก่ ประติมากรรมหินทรายรูปพระไภสัชยคุรุ และบริวาร 2 องค์ คือ  พระสุริยไวโรจนะ และ พระจันทรไวโรจนะ เป็นรูปเคารพในศาสนาพุทธ ลัทธิมหายาน  ศิลปะขอม   แบบบายน  ( ราวพุทธศักราช 1720 –1780 )   สำนักงานศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา   ดำเนินการขุดแต่งทางโบราณคดีที่ปรางค์บ้านปรางค์  เมื่อปีงบประมาณ  2545  และดำเนินการบูรณะและ  ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์    เมื่อปีงบประมาณ  2547    
หลักฐานทางโบราณวัตถุพบพระพุทธรูปประติมากรรมหินทราย  3  องค์  ได้แก่
- พระไภสัชยคุร  (มีบริวาร 2 องค์) คือ
- พระสุริยไวโรจนะ
- พระจันทรไวโรจนะ
( ศิลปะขอม  แบบบายน  ราวพุทธศักราช 1720 -1780 )   
ความสำคัญในอดีต           ปรางค์บ้านปรางค์มีความสำคัญในอดีต คือ เป็นศาสนสถานประจำโรงพยาบาลเรียกว่า  อโรคยาศาล  ใช้เป็นที่รักษาผู้คนในอดีต
   ความสำคัญในปัจจุบัน
                    ใช้เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้าน  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน      ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 จะมีการทำบุญตักบาตร ประจำทุกปี เพื่อเป็นการสักการบูชา   อาหารที่ใช้เซ่นไหว้  - กล้วยน้ำว้าสุก - ขนมหวานต่าง ๆ
  ความเชื่อของคนในท้องถิ่น
                ทุกบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณปรางค์บ้านปรางค์จะปลูกต้นกล้วยไว้หน้าบ้าน เพราะเชื่อกันว่าการปลูกต้นกล้วยไว้หน้าบ้านจะเหมือนเป็นการให้ความเคารพแก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองคนภายในบ้านไม่ให้ได้รับอันตราย
จุดประสงค์
                -  ต้องการศึกษาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปรางค์บ้านปรางค์ที่มีมาตั้งแต่ในอดีต
                -  ต้องการศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญของปรางค์บ้านปรางค์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
                -  ต้องการอนุรักษ์และเผยแพร่โบราณสถานที่มีอยู่ในท้องถิ่น
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
          โครงงานเรื่องปรางค์บ้านปรางค์นี้ริเริ่มจากกลุ่มของข้าพเจ้าได้มีความคิดที่อยากจะศึกษาและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุ ที่มีอยู่ในท้องถิ่น ให้ผู้คนทั่วไปได้รู้จักและร่วมกันอนุรักษ์ไว้   จึงเกิดเป็นโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์  ซึ่งข้อมูลที่ได้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
วิธีการดำเนินการศึกษา
   1.  ลงพื้นที่สำรวจแหล่งโบราณสถานปรางค์บ้านปรางค์
   2.  ดำเนินการสอบถามข้อมูลและสัมภาษณ์บุคคลผู้รู้ภายในหมู่บ้านปรางค์และบันทึกข้อมูลที่ได้ทำการสอบถามและสัมภาษณ์  พร้อมทั้งเก็บรวบรวมภาพโบราณสถาน
   3.  รวบรวมข้อมูลแล้วนำไปเผยแพร่ในเว็บ gotoknow.org
สรุปผลการศึกษา
            ได้ทราบประวัติความเป็นมาและความสำคัญทั้งในอดีตและปัจจุบัน และ   หลักฐานทางโบราณคดีของปรางค์บ้านปรางค์ และนำข้อมูลที่ได้ทราบไปเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้รู้จักและยังเป็นการช่วยให้บุคคลที่ได้รับข้อมูลเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์โบราณสถานโบราณวัตถุของชาติ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษา
      รู้และเข้าใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ความสำคัญของโบราณวัตถุ โบราณสถานในท้องถิ่น ร่วมกันอนุรักษ์ และสืบทอดประเพณีในท้องถิ่น
บทสัมภาษณ์ของนายสุเวช แทนสูงเนิน
- ความเป็นมาของปรางค์บ้านปรางค์
                ปรางค์กู่เป็นโบราณสถาน  หินที่อยู่บริเวณปรางค์กู่เป็นโบราณวัตถุ  ซึ่งโบราณสถานจะมีคูดินหล้อมลอบทั้งสี่ด้าน  สามารถทำกินในพื้นดินบริเวณนั้นได้แต่ไม่สามารถออกโฉนดได้
ปรางค์บ้านปรางค์เป็นทางผ่านจากปราสาทหินพิมายไปปราสาทเมืองต่ำ  โดยที่หินแต่ล่ะก้อนที่เป็นหินที่มาจากเขาที่จอดกัน ซึ่งเขานั้นอยู่ที่อำเภอโนนดินแดง  อยู่ระหว่างเขาใหญ่
                ปรางค์บ้านปรางค์เป็นโรงพยาบาลที่คนผ่ายไปผ่านมาได้พักรักษาหรือเรียนกว่า อโรคยาศาล หรือเรียกอีกอย่างว่า ปรางค์กู่หรือกู่ฤๅษี
                หินที่อยู่รอบๆปราสาทที่เขาไม่นำก่อกันเป็นปราสาทที่เขาไม่นำมาก่อกันเป็นปราสาทให้หมด เพราะแต่ก่อนเขาก็ไม่ได้เอาขึ้นเพราะสร้างปรางค์ไม่เสร็จ  ซึ่งบางคนตายไปในช่วงการก่อสร้างปรางค์  ปรางค์กู่กับปราสาทหินพิมายเป็นคู่แข่งในการสร้าง แต่ในการก่อสร้างถ้าที่ไหนสร้างเสร็จก่อนก็จะชูป้ายสีแดงขึ้นบนฟ้าเพื่อแสดงว่าสร้างเสร็จก่อนอีกฝ่ายจะได้ไม่สร้างต่อไป แต่ในครั้งนี้ปราสาทหินพิมายชูป้ายสีแดงขึ้นก่อนเพื่อแสดงว่าสร้างเสร็จแล้วจึงทำให้ปรางค์ไม่สร้างต่อ  ดังนั้นหินที่กองอยู่จึงไม่มีตำแหน่งที่จะขึ้นวาง
                ในปรางค์กู่จะมีพระพุทธรูปอยู่ 3 องค์ คือ องค์เล็ก องค์กลาง          องค์ใหญ่ ซึ่งตอนนี้นำไปไว้ที่กรมศิลปากร พิมาย พระพุทธรูปของปรางค์กู่จะมีปากแดงทั้ง 3 องค์  พระพุทธรูปเป็นหินสีเขียวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ยังไม่เขียวถึงกับมรกต  แล้วก็คอขาดทั้งสามองค์ เป็นแบบนั้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ  แต่พอพบเห็นแล้วทางกรมศิลปากรก็ได้นำมาประกอบกันเพื่อให้เป็นพระพุทธรูปที่สมบูรณ์ พบพระพุทธรูปอยู่ในหลุมที่มีความกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร โดนที่มีก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งทับปากหลุมอยู่ พอเปิดก้อนหินออกเกิดพบพระพุทธรูปทันที พบอยู่บริเวณหน้าประตูทางด้านทิศตะวันออกของปรางค์กู่            ประมาณ 9,000,000 - 10,000,000 บาท ของกรมศิลปากร  พอขุดพบได้ประมาณ 20 นาที ผู้อำนวยการกรมศิลปากรก็นำกลับไปไว้ที่กรมศิลปากรที่ 12 พิมาย
- ขนาดความกว้างของพระพุทธรูปประมาณเท่าไหร่ค่ะ
                องค์เล็กประมาณ 20 เซนติเมตร
                องค์กลางประมาณ 30 เซนติเมตร
                องค์ใหญ่ประมาณ 40 เซนติเมตร
- บริเวณปรางค์บ้านปรางค์เป็นที่ดินของใครหรอค่ะ
                เป็นที่ดินของประเทศ และเป็นที่ควบคุมและดูแลของกรมศิลปากร
- ไม่สามารถใส่ตงไหนได้เลยหรอค่ะ
                ใช่ เพราะตำแหน่งของหินไม่มี  แต่ตอนที่เขามาบูรณะ บูรณะทั้งวันได้ไม่ถึงก้อน แล้วหินแต่ละก้อนก็มีเบอร์หรือขนาดของมันเอง  ในการทำความสะอาดหินในปรางค์ใช้เวลาเกือบปีก็ยังไม่เสร็จใช้
                เคยมีผู้รับเหมาทำความสะอาด ซึ่งคนนั้นใช้มีดถางหญ้าใกล้ๆกับหิน แต่ความจริงแล้วห้ามเอามีมาถางหญ้าบริเวณใกล้กับหิน เพราะถ้ามีดโดนหินแตกแค่นิดเดียวก็จะทำให้หินต่อกันไม่ได้ ดังนั้นต้องค่อยๆถอนหญ้าบริเวณนั้นทีละนิด ถ้ามีฝุ่นก็ใช้แปรงปัดฝุ่นค่อยๆปัดออก จะทำความสะอาดในเวลานานก็ได้แต่ห้ามทำให้โบราณวัตถุชำรุด ถ้าหินชำรุดก็จะไม่สามารถต่อกันได้อีก
- ตาไปดูแลปรางค์ยังไงค่ะ แล้วปกติตาไปดูแลปรางค์ยังไงและเวลาไหนค่ะ
                คณะ อสมส. จะไปดูแลเป็นประจำ  ตาก็จะไปดูแลทุกวัน  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับปรางค์กู่เช่นมีคนบุกรุกเพื่อหาโบราณวัตถุ ตาก็จะไปบอกเขาดีๆถ้าเขาไม่ฟังก็แจ้งตำรวจและแจ้งกรมศิลปากร
- ใช้งบประมาณในการบูรณะปรางค์ประมาณเท่าไหร่ค่ะ
         งบประมาณในการทำความสะอาดปรางค์ 3,000,000 บาท งบประมาณในการลิ้อปรางค์ 2,000,000 บาท รวมเป็น 5,000,000 บาท 
บุคคลสำคัญในบ้านปรางค์
ชื่อ                          นายสุเวช  แทนสูงเนิน
เกิดวันที่                18 กรกฎาคม พ.ศ. 2482
ที่อยู่ปัจจุบัน         103  หมู่ที่ 11  ตำบลหินดาด  อำเภอห้วยแถลง  จังหวัดนครราชสีมา
.....................................................................................................
ชื่อ                        นายพรมมา  ปักอินทรีย์
เกิดวันที่                 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485
ที่อยู่                        1  หมู่ที่ 11 ตำบลหินดาด  อำเภอห้วยแถลง  จังหวัดนครราชสีมา
 .................................................................................................
ชื่อ                          นายพัด  บุญอิสระเสรี
เกิดวันที่                 4  มิถุนายน พ.ศ. 2479
ที่อยู่                        102  หมู่ที่ 11 ตำบลหินดาด  อำเภอห้วยแถลง  จังหวัดนครราชสีมา
 .....................................................................................................
ชื่อ                          นายแบน  แทนสูงเนิน
เกิดวันที่                 10  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485
ที่อยู่                        99  หมู่ที่ 11 ตำบลหินดาด  อำเภอห้วยแถลง  จังหวัดนครราชสีมา
 .....................................................................................................
ชื่อ                          นายปรีชา  ดุลกลาง
เกิดวันที่                 26  มีถุนายน  พ.ศ. 2483
ที่อยู่                        105  หมู่ที่ 11 ตำบลหินดาด  อำเภอห้วยแถลง  จังหวัดนครราชสีมา
 ....................................................................................................
ชื่อ                          นายบุญมา  ผ่องแผ้ว
เกิดวันที่                 พ.ศ. 2498
ที่อยู่                        115  หมู่ที่ 11 ตำบลหินดาด  อำเภอห้วยแถลง  จังหวัดนครราชสีมา
ชื่อ                          นายโหน  จันดี
เกิดวันที่                 พ.ศ. 2495
ที่อยู่                        104  หมู่ที่ 11 ตำบลหินดาด  อำเภอห้วยแถลง  จังหวัดนครราชสีมา
........................................................................................................